TPSE 2013

Thailand Practical Software Engineering เป็นอีกหนึ่งงานจากทาง SPIN ค่ะ งานนี้ไปโดยไม่ค่อยหวังอะไร เพราะดูจาก agenda แล้วคล้ายๆ กับ Thailand SPIN 2013 มากๆ ทั้ง speaker แล้วก็หัวข้อ แต่ก็คิดว่าลองไปฟัง keynote speaker จาก NASA ดู แต่ก็ได้อะไรกลับมาพอสมควร



โดยงานนี้ แบ่งเป็น 2 วัน วันแรก มี keynote speaker ที่น่าสนใจ คือ Firouz Naderi  ซึ่งมาเล่าประสบการณ์จากการบริหารโครงการที่ NASA ให้ฟัง สรุปนะค่ะเค้ามีวิธี 3 ขั้นตอนในการทำให้โครงการประสบความสำเร็จ คือ

  1. get best people, mold them in team เรื่องนี้เค้าให้ระวังเรื่อง "chemistry" ในทีมด้วย แม้ว่าจะได้คนเก่งมา แต่ถ้าไม่เข้ากับทีม ก็มีปัญหา แต่ PM จะต้องเป็นคนทำยังไงก็ได้เพื่อให้คนในทีมเข้ากันให้ได้
  2. motivate team เค้าเน้นว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะเมื่อคนเราทำงานไประยะหนึ่งในโครงการก็จะมีช่วงจังหวะที่ล้า PM จะต้องเป็นคนที่ทำให้ทีมมีพลัง
  3. share success ง่ายๆ ก็คือ "ไม่ได้เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนที่เหลือ"
นอกจากนี้ก็ยังมีประเด็นอื่นๆ ด้วย แต่ที่จับใจความได้ (คือภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงค่ะ) คือ don't afraid to fail. เพราะทุกโครงการมีความเสี่ยง และไม่เคยมีข้อมูลเพียงพอสำหรับการตัดสินใจ ณ.เวลานั้น อยู่ที่ PM เลยว่าจะตัดสินใจยังไง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือการไม่ตัดสินใจอะไรเลย (The worst is not making decision. In complex project, there is no enough information to make the decision.)


หลังจากนั้นตอนบ่าย ก็ไปฟัง "Robot Framework: Generic test automation framework for acceptance testing and acceptance test-driven development (ATDD)" ซึ่ง"เป็นการพูดถึง tools ชื่อ Robot ซึ่งจะช่วยในการทำ automated test ซึ่งโดย concept แล้วดีทั้งนั้นค่ะ การที่มี TDD ก็ดีอยู่แล้ว ATDD ก็ยิ่งดีขึ้นไปอีก แต่ถ้าจะใช้จริงๆ คงต้องศึกษาเพิ่มเติมอีกเยอะเลย

และ session สุดท้ายของวันแรกที่เข้าฟัง ก็คือ "Practical UX First step" ซึ่งเปิดโลกของเราสำหรับ UX เลย เพราะว่าไม่เคยได้ศึกษา หรือว่าอ่านเรื่องนี้มาก่อน ไว้จะเขียนลงไว้อีกครั้งหนึ่งค่ะ


สำหรับวันที่สอง เนื่องด้วยสะดุดปัญหาหลายอย่าง เลยอดไปฟัง keynote speaker ตอนเช้าที่มาจาก ThoughtWorks และ session เช้าทั้งหมด ไปฟังอีกทีตอนบ่ายเลย ซึ่งเราก็เข้าไปฟัง "Agile in Enterprise: the missing pieces" ซึ่งทำให้ได้ความรู้ในอีกมุมของการใช้และปัญหาของ scrum สำหรับองค์กรใหญ่ๆ แต่อาจจะไม่ค่อยเข้ากับเราเท่าไร เพราะก็ยังไม่คิดว่าจะได้เป็นคนเอามาใช้ หรือผลักดันให้ใช้อ่ะนะ คือไม่ได้อยู่ใน position นั้น และ session สุดท้ายที่ได้ฟังก็คือ "Lean/Kanban – Going beyond Scrum" อันหลังจะเข้ากับจริตมากกว่า เพราะว่ากฎน้อย ทำตามได้ง่าย ยืดหยุ่นกว่า แต่กฎที่น้อยนี่เองก็จะอาจจะเป็นทั้งจุดอ่อนและจุดแข็งในคราวเดียวกัน สำหรับการนำมาปฏิบัตสำหรับคนทั้งกลุ่มที่ยังไม่เคยรู้จัก agile การมีกฎดูจะทำให้ทำตามได้ง่ายกว่า แต่เมื่อรู้และเข้าใจกฎแล้ว การใช้ Kanban ดูจะช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้น และปรับแต่งให้เข้ากับแต่ละที่ และสถานะการณ์ได้ง่ายกว่า

Reference:
http://www.tpseconf.org
Lean/Kanban – Going beyond Scrum






No comments:

Post a Comment